ต้นกำเนิด
สุนัขล่าเนื้อปรากฎอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของชาวกรีกโบราณเมื่อ 400 ปีก่อนคริสต์กาล และถูกนำเข้ามาในประเทศอังกฤษในสมัยโรมัน และในปี ค.ศ. 1550 ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์สุนัขล่าเนื้อขนาดเล็กสำหรับล่ากระต่ายและกระต่ายป่าขึ้นมา โดยตั้งชื่อว่า "Begles" มาจากภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "คอเปิดอ้า" หมายความถึงสุนัขที่มักจะใช้ปากเพื่อส่งเสียง เช่น เห่าหอนเมื่ออยู่ในฝูง ชาวอังกฤษได้แปลงชื่อเป็น 'Beagle' และต่อมาประเทศอังกฤษได้กลายเป็นถิ่นกำเนิดสุนัขบีเกิ้ลสายพันธุ์ใหม่ บรรพบุรุษของสุนัขบีเกิ้ลคือ ฟอกซ์ฮาวน์ ซึ่งจัดอยู่ในสายพันธุ์แฮริเออร์ กลุ่มบลัดฮาวน์ขนาดเล็กที่มีชื่อว่า "เคอร์รี่ บีเกิ้ล" เดิมที สุนัขสายพันธุ์บีเกิ้ลมีหลายขนาดและมีขนหลายแบบ เช่น ขนเรียบแบบ สุนัขล่าเนื้อสมัยใหม่ และขนหยาบสั้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ "บีเกิ้ลกระเป๋า" ที่มีความสูง 10 นิ้ว เพื่อให้สามารถพกพาโดยใช้กระเป๋าที่แขวนบนอานม้าได้
ลักษณะของบีเกิ้ลที่ได้มาตรฐาน ได้แก่ ส่วนหัวยาวสวยงามและกะโหลกด้านบนโค้งเล็กน้อย หูมีปลายมน เมื่อจัดให้อยู่ในท่ายืนหน้าตรง หูจะห้อยติดกับหัว และยาวในระดับเดียวกับปลายจมูก กระบอกปากยาวปานกลางและมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม รูจมูกมีสีดำเปิดกว้าง ขนาดใหญ่ ตาห่างกันพอประมาณ อาจมีสีน้ำตาลหรือสีฮาเซล คอยาวปานกลาง ไม่มีรอยยับย่น ไหล่ลาด ประกอบด้วยกล้ามเนื้อแต่ไม่เทอะทะ หลังสั้นและตรง ขาเหยียดตรง ข้อเท้าใหญ่ สะโพกจะต้องมีกล้ามเนื้อสวยงามเพื่อให้รูปร่างของบีเกิ้ลดูแข็งแรงและกระทัดรัด โคนหางสูงพอเหมาะ โค้งเล็กน้อย มีขนที่ปลายหาง สีที่ได้รับการยอมรับในเวทีประกวดคือสีในกลุ่มฮาวน์ ยกเว้นสีน้ำตาลแดงเข้ม (Liver Color)
- ขนาดสายพันธุ์: เล็ก
- ประเภทสายพันธุ์: บีเกิ้ลจัดเป็นสุนัขล่าเนื้อที่เล็กที่สุด ปัจจุบันมีการเีลี้ยงบีเกิ้ลเพื่อใช้ในการกีฬาและเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน
- รูปร่างลักษณะ: บีเกิ้ลเป็นสุนัขขนาดตัวเล็กแต่รูปร่างหนาและแข็งแรง ดูเป็นมิตร ใจดี กระทัดรัดปราดเปรียว และเก่งกาจในด้านกีฬา ชอบวิ่งเล่นอย่างอิสระ มีขนสั้นและหนาที่ช่วยป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศ
- สี: ที่เห็นได้ทั่วไปส่วนใหญ่มักมีขนสามสีคือ สีดำ ขาว และสีแทน แต่ก็สามารถพบเห็นบีเกิ้ลมีสีอื่นๆ ได้ในสีของสุนัขกลุ่มฮาวน์ ความยาวขน: สั้น/เรียบ
น้ำหนัก / ส่วนสูง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น